ข้อความ

บล๊อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการเรียนการสอนรายวิชาอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวันและเพื่อให้ผู้ที่สนใจศึกษาหาความรู้ได้

วันเสาร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เทศกาลเต็ด (Tet)
 
เทศกาลอรุณแรกแห่งปี หรือ เต็ด เหวียน ดาน Tet Nguyen Dan ซึ่งเป็นเทศกาลที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมานาน
ตรุษจีนจึงถือเป็นวันหยุดที่สำคัญมากช่วงหนึ่งของชาวจีน นอกจากนั้นยังแผ่อิทธิพลไปถึงการฉลองปีใหม่ของชนชาติใกล้เคียงกับตนอย่างเช่น ญี่ปุ่น เกาหลี เมี่ยน ม้ง มองโกเลีย ทิเบต และเวียดนาม เป็นต้น
ชาวจีนแผ่นดินใหญ่หยุดงานกันตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม ไปจนถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ส่วนชาวจีนในบ้านเราก็ตระเตรียมสิ่งของเพื่อเซ่นไหว้ ขอพรจากเทพเจ้า นำโชคลาภเข้าสู่บ้านและตัวเอง

เวียดนามประเทศในแถบเอเชียที่ได้รับกลิ่นอายของวัฒนธรรมจีนมาเป็นเวลานาน ประเพณีและวัฒนธรรมบางอย่างจึงคล้ายกับชาวจีน
ในช่วงเวลาเดียวกันนี่เองเวียดนามก็มีเทศกาลอรุณแรกแห่งปี หรือ เต็ด เหวียน ดาน Tet Nguyen Dan ซึ่งเป็นเทศกาลที่ถือปฏิบัติสืบต่อกันมานาน
กล่าวกันว่า เทศกาลเต๊ดนี้จะเริ่มขึ้นหนึ่งอาทิตย์ก่อนวันปีใหม่ซึ่งยึดตามหลักจันทรคติ ในช่วงเวลานั้นจะมีพิธีเซ่นไหว้เต๋า กวาน หรือเทพเจ้าแห่งครัว ด้วยผลไม้สด และอาหารที่ปรุงแล้ว รวมทั้งหุ่นกระดาษรูปนกกระสา ม้า รถ รองเท้าขุนนางและชุดเครื่องแต่งกายในพิธีเฉลิมฉลองให้แก่เต๋า กวาน

ตำนานเรื่องราวของเต๋า กวาน เป็นโศกนาฎกรรมระหว่างชายตัดไม้กับภรรยาของตัวเอง พวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขด้วยกันมาเนิ่นนาน กระทั่งวันหนึ่ง ผู้สามีเริ่มรู้สึกเป็นทุกข์ เมื่อเขาและภรรยายังไม่อาจหาทายาทมาสืบสกุลได้

ชายตัดไม้จึงเริ่มดื่มเหล้าอย่างหนักและปฏิบัติตัวกับภรรยาอย่างเลวร้าย เมื่อสุดจะทนฝ่ายภรรยาจึงหนีไปจากชายตัดไม้และไปอยู่กินกับพรานคนหนึ่งในหมู่บ้านใกล้ๆ กัน.....
ด้วยความว้าเหว่เมื่อขาดคู่ชีวิตไปและเริ่มสำนึกได้ถึงความผิดที่ตัวเองทำร้ายจิตใจภรรยาตัวเอง ชายตัดไม้จึงตัดสินไปหาภรรยาที่บ้านใหม่ เพื่อขอโทษในสิ่งที่ตัวเองได้เคยทำกับเธอ

เรื่องอาจจะจบลงได้ด้วยดี ถ้าไม่เผอิญกับช่วงเวลานั้น พรานผู้เป็นสามีกลับบ้านพอดี ด้วยความที่ไม่อยากให้สามีใหม่เข้าใจผิด ฝ่ายภรรยาจึงพาสามีเก่าไปซ่อนไว้ที่ยุ้งข้าวใกล้กับครัว เมื่อพรานเข้าไปย่างเนื้อที่ตัวเองเพิ่งล่ามาได้ในครัว เปลวไฟก็ให้บังเอิญไปติดยุ้งข้าวนั้นลุกโชนขึ้นมา

ฝ่ายภรรยาอารามตกใจ รีบวิ่งเข้าไปช่วยอดีตสามีในกองเพลิง โดยมีพรานสามีใหม่ตามเข้าไปช่วยชีวิตภรรยา ทั้งสามจึงสิ้นใจในกองเพลิงนั้นร่วมกัน
เทพเจ้าบนสวรรค์เห็นใจในความรัก ความเสียสละของคนทั้งสาม จึงแต่งตั้งให้วิญญาณทั้งสามเป็นมีหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่ของผู้คนบนโลกมนุษย์จาก จุดที่มองออกไปได้ภายในครัว เทพทั้งสามนี้จึงได้รับการขานนามว่า เป็นเทพเจ้าแห่งครัวของแต่ละบ้านไป...

แต่ก็มีเรื่องเล่าที่ต่างกันไปเช่นออง เตา Ong Tao ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ถูกส่งลงมาจากสวรรค์เพื่อทำหน้าที่คุ้มครองครัวในบ้านแต่ละหลัง และในช่วงเทศกาล เต็ด นี้ออง เตา ต้องกลับขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อรายงานแก่พระเจ้าถึงสารทุกข์สุกดิบของบ้านแต่ละหลัง ก่อนที่เทพเจ้าจะขึ้นไปบนสวรรค์ ชาวเวียดนามต้องทำพิธีส่งเทพเจ้า โดยใช้ปลาคาร์พเป็นเครื่องบูชา เพื่อเชื่อกันว่าปลาคาร์พเป็นพาหนะที่จะนำเทพเจ้าออง เตาไปสู่สวรรค์ คนในบ้านจะวางถังน้ำที่ใส่ปลาคาร์พ ไว้ที่แท่นบูชาของบ้าน เมื่อครบกำหนดก็จะนำปลาไปปล่อย

ชาวเวียดนามสร้างไก เนว Cay neu ซึ่งเป็นต้นไม้ทำจากลำไผ่ มาปักไว้หน้าบ้านเป็นเวลา 7 วันพร้อมประดับด้วยกระดาษสีแดง สัญลักษณ์แห่งความโชคดี ตามตำนานเชื่อกันว่าจะทำให้วิญญาณชั่วร้ายหวาดกลัวและหนีไป

นอกจากไกเนว แล้วชาวเวียดนามยังมีต้นไม้มงคลที่จะนำมาตั้งไว้หน้าบ้านของตัว อย่างต้น
hoa mai ที่ออกดอกสีเหลือง ถือเป็นสัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ ทำให้คนในบ้านมีความสุขและโชคดี

เสียงแรกที่ได้ยินในวันปีใหม่นั้น ถือเป็นสิ่งสำคัญ เสียงไก่ขัน ถือเป็นสัญลักษณ์ของงานหนักและการเก็บเกี่ยวที่ไม่ได้ผล ส่วนถ้าเป็นเสียงร้องของควายจะแสดงว่าปีนั้นเป็นปีของความเหนื่อยยาก แต่หากเป็นเสียงสุนัขเห่ากลับกลายเป็นปีแห่งความไว้วางใจและซื่อสัตย์....

นอกจากเสียงแล้วผู้มาเยือนในวันแรกแห่งปีก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่นถ้าคนผู้นั้นเป็นคนมีเกียรติร่ำรวยและมีชีวิตที่สุขสบาย ก็จะหมายถึงครอบครัวที่คนผู้นั้นไปเยือนจะมีความสุขตามไปด้วย

อาหารประจำเทศกาลเต็ดรวมทั้งกิจกรรมอื่นๆ ก็มีความละม้ายกับเทศกาลปีใหม่ของชาวจีนอีกหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นบะจ่าง การเชิดสิงโต หรือแม้กระทั่งปะทัด และอั่งเปา ด้วยหวังว่าปีใหม่ ศักราชใหม่จะนำพาสิ่งดีๆ มาสู่ทุกคนในครอบครัว อีกทั้งมีความหวังในเป็นวาระแห่งมงคลด้วย


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น